BEYOND PRINT: 23th Article: Where Art Sells, Roppongi Hills

คิดนอกกระดาษ ตอน ศิลปะสร้างสรรค์จุดขาย Roppongi Hills By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 October 2015 ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพาน้องๆ ทีมงาน Well Done Bangkok ไปเที่ยวพักผ่อนประจำปีที่ญี่ปุ่น หลังจากที่เคยพาไปตะลุยเกียวโตและโอซาก้ามาแล้ว ปีนี้ก็เลยเลือกปักหมุดไปลงที่โตเกียวดูบ้าง เป้าหมายหลักในการพาออฟฟิศไป Outing ที่ไหนซักแห่ง อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่หวังว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงาน ถึงเปลือกนอกจะดูเป็นการไปท่องเที่ยวก็ตาม แต่โดยเนื้อแท้ มันควรเป็นการเดินทางที่ทำให้ทีมงานได้ออกไปพบเห็น ได้ดื่มด่ำซึมซับศิลปะการใช้ชีวิตของผู้คนที่นั่น ได้ไปชื่นชมผลงานศิลปะและดีไซน์ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันความเจริญมาสู่ประเทศของเขา สร้างแรงขับให้กับทีมงานในการกลับมาสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทยเรา นั่นทำให้ญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกลำดับแรกตลอดมา นอกจากจะไปง่ายไม่ต้องขอวีซ่าอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ประเทศนี้ยังตอบโจทย์ทุกข้อข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านอาหารการกินที่ได้รับการยกย่องให้เป็น Gourmet Capital of The World เมืองหลวงในด้านโภชนาการของโลก เนื่องจากมีร้านอาหารที่ได้ Michelin Star มากที่สุดในโลก การที่ผู้คนในบ้านเมืองมีระเบียบวินัยและมีความเป็นชาตินิยมสูง มีวัฒนธรรมสมัยใหม่ปะปนอยู่กับคลื่นอารยธรรมสมัยอดีต มีสถาปัตยกรรมทันสมัย ผสานเข้ากับย่านที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ ได้อย่างน่าสนใจ สีสันการแต่งกายของผู้คนผนวกกับแหล่งช้อปปิ้งที่มีอยู่มากมาย ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลากหลายรูปแบบ การเสพอาร์ตที่นี่จึงมีทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะมองหาอาร์ตเพียวๆ หรืออาร์ตเบาๆ เนื่องจากเป็นทริประยะสั้น ใช้เวลาในโตเกียวแค่ 5 คืน เราจึงเลือกพิพิธภัณฑ์ประมาณ 3 แห่ง เริ่มจากทัวร์อาร์ตเบาๆ ให้อารมณ์สดใสตลอดทริป กับคาแรคเตอร์การ์ตูนยอดนิยมแห่งยุคที่พิพิธภัณฑ์ Fujiko F. Fujio Museum หรือพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน ที่เมือง Kawasaki บ้านเกิดของ Fujiko F. Fujio ศิลปินผู้ให้กำเนิดแมวน้อยแสนรักและแสนล้ำของชาวโลก โดยต้องนั่งรถไฟออกจากโตเกียวไปประมาณหนึ่งชั่วโมง และถ้าใครจะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้านะครับ กันผิดหวัง ตามมาด้วยทัวร์อาร์ตที่ให้ความรู้ตรงกับสายงานโฆษณาที่พิพิธภัณฑ์ Advertising Museum Tokyo ที่ก่อตั้งโดย Dentsu ยักษ์ใหญ่เอเจนซี่โฆษณาระดับโลกสัญชาติญี่ปุ่น ที่รวบรวมผลงานโฆษณาของประเทศพวกเขาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 22th Article: Exporting Thai Creativity

คิดนอกกระดาษ ตอน ครีเอทีฟไทย จะไปนอก By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 August 2015 ตอนที่ไปตัดสินงานคานส์ครั้งแรกในปี 2007 ได้มีโอกาสสังสรรค์สนทนากับครีเอทีฟต่างชาติหลายต่อหลายคน เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงสนามบินเมืองนีซเพื่อนั่งรถต่อไปคานส์ จับพลัดจับผลูได้เพื่อนร่วมทางเป็น Tham Khai Meng ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่ง Co Chairman ของ Ogilvy & Mather Asia Pacific โดย Khai Meng มาตัดสินหมวดสิ่งพิมพ์ Press Lions ส่วนผมเป็นกรรมการตัดสินหมวดสื่อกลางแจ้ง Outdoor Lions ถึงแม้จะต้องนั่งรถคันเดียวกันไปยาวๆ เป็นชั่วโมง ด้วยความที่คุ้นเคยกันมาก่อนจากการพบปะในเวทีประกวดงานโฆษณาระดับภูมิภาค บทสนทนาวันนั้นจึงเป็นไปอย่างออกรสชาติ ยังจำได้ขึ้นใจว่า Khai Meng ชื่นชมผลงานครีเอทีฟของคนไทยมาก แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ระวังงานไทยจะถึงช่วงขาลง เหตุเพราะครีเอทีฟไทยขี้อาย เวลาไปประชุมหรือตัดสินงานเมืองนอกก็ชอบเกาะกลุ่มกันอยู่แต่กับคนไทยด้วยกันเอง ทั้งไม่กล้าคุยภาษาอังกฤษ ทำให้ไม่ยอมไปทำงานเมืองนอก พลาดโอกาสนำความรู้และมุมมองจากต่างแดนมาช่วยเสริม ผลักดันผลงานไทยให้มีมาตรฐานอยู่ในระดับอินเตอร์ได้ในระยะยาว แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ Khai Meng ทายทักไว้ จนถึงวันนี้ งานโฆษณาของไทยไม่ได้สร้างความเกรงขามให้กับคู่แข่งบนเวทีประกวดอีกต่อไป หนังโฆษณาที่เคยโดดเด่นเป็นที่จับตามองก็กลับกลายเป็นแป้กตลอด คุณยังจำสิงโตทองตัวสุดท้ายของไทยในหมวดหนังโฆษณาได้มั้ย ต้องย้อนมองกลับไปไกลถึงปี 2008 กับหนังซิลวาเนีย เรื่อง Picnic โดยพี่จูดี้ – จุรีพร ไทยดำรงค์ ส่วนงานสิ่งพิมพ์ในหมวด Press และ Poster เราก็ยังย่ำเท้าอยู่กับที่ ลุ่มหลงงมงายทำงาน Scam หลอกลวงชาวโลกและตัวเองไปวันๆ ได้รางวัลใหญ่โตขนาดไหนก็ไม่นำความภาคภูมิใจใดๆ มาสู่วงการ แถมเป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับเด็กรุ่นหลังด้วย ในขณะที่ Khai Meng กล้าก้าวออกจากประเทศสิงคโปร์ เติบโตในฐานะครีเอทีฟนักบริหารระดับ South East Asia จนกระทั่งในปี... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 21th Article: Today’s Woman in Advertising

คิดนอกกระดาษ ตอน ผู้หญิงในงานโฆษณาวันนี้ ชีวิตดี๊ดี By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 June 2015 งานโฆษณายุคนี้นับได้ว่าเป็นยุคของงานคิดดีทำดี ส่งเสริมสังคมกันแบบเต็มตัวไปแล้ว เห็นได้จากการที่งานในลักษณะนี้นอกจากจะได้รับการยกย่องจากในวงการเราเองแล้ว แต่ยังแผ่ขยายอิทธิพลกว้างไกลไปถึงวงการอื่นๆ จึงไม่แปลกที่ผลการแจกรางวัลขวัญใจชาวเน็ต Webby Award ในปีนี้ ผลงานหนังไวรัล Like a Girl โฆษณาผ้าอนามัย Always ในเครือ P&G สามารถกวาดรางวัลใหญ่ไปหลายหมวดทั้งในฐานะงานโฆษณาอย่าง Best Online Commercials ในฐานะหนังออนไลน์อย่าง Best Use of Video (Social), Viral Marketing (Interactive Advertising & Media) ไปจนถึงในฐานะสื่อบันเทิงอย่าง Short Form Branded Entertainment (Online Film & Video) ทั้งที่ถ้าดูตามเนื้อผ้าแล้ว งานโฆษณาชิ้นนี้ที่รังสรรค์โดยความร่วมมือของ Leo Burnett ชิคาโก ลอนดอน และโตรอนโต มีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่มากมายหลายจุด โดยเฉพาะคุณภาพการถ่ายทำ กล่าวคือถ้าดูหนังเรื่องนี้แว้บแรก ก็เรียกได้ว่ามองไม่เห็นความเนี้ยบกันเลยซักจุด แต่จุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้ที่ออกฉายทางออนไลน์ครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว กลายเป็นหนังโฆษณาที่ได้รับการพูดถึงและแชร์มากที่สุดในปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ ก็นับได้ร่วมๆ ร้อยล้านวิว รวมถึงเป็นเต็งหามที่จะคว้ารางวัลใหญ่ในคานส์ประจำปีนี้ ต้องยกให้กับไอเดียและ Insight ที่ทั้งเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแยกไม่ได้ และยังมีจุดพูดที่เข้ากับความเป็นผ้าอนามัยอย่างแกะไม่ออก หนังเรื่องนี้ถ่ายทำกันง่ายๆ ในสตูดิโอแห่งหนึ่ง ให้เห็นกันจะๆ ไปเลยว่าผู้กำกับกำลังนั่งอยู่หลังกล้องคอยสัมภาษณ์ตัวแทนผู้บริโภคซึ่งประกอบด้วยวัยรุ่นกับเด็กๆ ทั้งเพศหญิงและชาย แต่ทีเด็ดอยู่ที่ข้อความที่ทยอยปรากฎขึ้นมาประกอบการเล่าเรื่อง โดยตั้งคำถามมาก่อนเลยว่า การทำอะไรเหมือนผู้หญิงเนี่ย (Like a Girl) มันเป็นไงเหรอ? แล้วก็ให้วัยรุ่นหญิงและชายอธิบาย จากนั้นก็ต่อด้วยคำถามจากปากทีมงานว่า ไหนทำให้ดูซิ? ภาพก็แสดงให้เห็นว่าพวกวัยรุ่นทั้งหญิงชาย ต่างทำท่าล้อเลียนท่าทางผู้หญิงอย่างการวิ่ง... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 20th Article: Virtual Reality, A New Experience

คิดนอกกระดาษ ตอน Virtual Reality ประสบการณ์ใหม่ของคนโฆษณา By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 April 2015 ถ้าใครติดตามอัพเดทงานโฆษณาและสื่อสารการตลาดอยู่เรื่อยๆ จะเห็นว่าช่วงนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างน่าจับตา นั่นคือกระแส Virtual Reality (VR) โดยเฉพาะต้นปีมานี้ หลังจากที่ซัมซุงออกสินค้าไลน์ใหม่สู่ตลาดคือ Samsung Gear VR ซึ่งเป็นแว่นตาจอภาพเมื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน Samsung Note 4 เท่ากับทลายกำแพงราคาเดิมๆ ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้งาน VR ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ด้วยราคาหลักล้านเหมือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยบริษัทผู้ผลิตของเล่นชื่อดัง Mattel ได้จับมือกับ Google ปัดฝุ่น View-Master แว่นตาดูภาพเคลื่อนไหวขวัญใจเด็กๆ ที่ออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อ 75 ปีก่อน และสร้างยอดขายทั่วโลกไปกว่าหนึ่งร้อยล้านชิ้น พร้อมม้วนภาพเคลื่อนไหวกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านตลับ Mattel ออกแบบ View-Master ให้ผู้สวมแว่นตานี้รู้สึกเสมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงแบบ VR โดยตั้งราคาขายปลีกเพียง 900 บาท พร้อมจำหน่ายม้วนภาพเคลื่อนไหวดิจิตอลครอบคลุมเนื้อหาหลากหลาย ตั้งแต่การท่องโลกไดโนเสาร์ ผจญภัยใต้มหาสมุทร ไปจนถึงตะลุยอวกาศกับนาซ่า ฯลฯ ทั้ง Mattel และ Samsung เป็นสองบริษัทรายแรกๆ ที่ออกอุปกรณ์รับชม VR สู่ผู้บริโภคทั่วไป ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อีกมากมายหลายบริษัทที่กำลังทยอยเปิดตัวสินค้าสุดไฮเทคนี้ เช่น Microsoft ออก HoloLens Augmented Reality ด้าน Sony ก็มี Project Morpheus แต่ที่ฮือฮาสุดๆ คงต้องยกให้การที่ยักษ์ใหญ่โซเชียลอย่าง Facebook เข้าซื้อกิจการของ Oculus VR ผู้ผลิตอุปกรณ์รับชม VR รายใหญ่ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยราคามโหฬารถึงหกหมื่นกว่าล้านบาท โดย Mark Zuckerberg อธิบายเหตุผลในการซื้อกิจการไว้อย่างน่าฟังว่า... Read The Rest →

BEYOND PRINT: 19th Article: Dress Normal

คิดนอกกระดาษ ตอน Dress Normal แคมเปญเสื้อผ้าธรรมดาที่ไม่ธรรมดา By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 February 2015 เมื่อพูดถึง Wieden+Kennedy ทุกคนคงรู้ดีว่าเป็นสุดยอด Independent Advertising Agency ของโลก เจ้าของผลงานโฆษณาระดับตำนานอย่าง Nike, Coke และ Old Spice ซึ่งมีสาขากระจายไปยังเมืองสำคัญทั่วโลก แต่ถ้าถามว่าสาขาไหนที่สามารถผลิตผลงานอันลือลั่นออกมาได้อย่างต่อเนื่อง หลายคนคงตอบได้ทันทีว่าเป็นสาขาเมือง Portland อเมริกา สาขาเมือง Amsterdam เนเธอร์แลนด์ สาขาเมือง London อังกฤษ รวมไปถึงสาขาเมือง Tokyo ญี่ปุ่น น้อยคนนักจะคิดถึงสาขาเมือง New York อเมริกา ซึ่งเป็นสาขาที่ W+K เพิ่งเปิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง และในการเปิดออฟฟิศที่ New York รอบนี้ ทาง W+K เองก็ต้องดิ้นรนไม่น้อยกว่าจะตั้งหลักได้ โดยเริ่มมีผลงานสร้างชื่อให้ตนเองอย่าง ESPN, Heineken แต่แคมเปญที่ทำให้ W+K New York เริ่มมีชื่อเสียงติดลมบนก็คือแคมเปญหนังโฆษณาเหล้า Southern Comfort เมื่อปีที่แล้ว ที่แสนจะแปลกแหวกแนว เล่นกับคาแรคเตอร์คนดื่มแบบสุดโต่งจนกวาดรางวัลมากมายในทุกเวทีที่ส่งผลงานเข้าประกวด และมาปีนี้พวกเขาก็ทำให้ครีเอทีฟและนักการตลาดทั่วโลกต้องหันมาจับตามองด้วยความทึ่งในฝีไม้ลายมืออีกครั้ง เรียกได้ว่าแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะเชื้อสาย W+K ระดับหัวแถว กับแคมเปญใหม่ที่ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Gap อย่างที่ทราบกันดีว่าภาพลักษณ์ของ Gap เริ่มตกลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากการเน้นทำโปรโมชั่นในร้านแบบไม่ลืมหูลืมตา เรียกได้ว่าถ้าเดินเข้าร้าน Gap ที่อเมริกา เราจะได้เห็นกระบะติดป้าย Sale ทิ่มตาเรียกให้เราไปคุ้ยค้นอยู่ตลอดเวลา จนภาพลักษณ์ของแบรนด์เริ่มกลายเป็นของถูกสำหรับนักช้อป แล้วแบรนด์แฟชั่นเนี่ยนะ ดูกระจอกได้ที่ไหน ถ้าคนใส่เสื้อผ้าเริ่มขาดความภูมิใจในแบรนด์ พวกเขาก็พร้อมจะเปลี่ยนใจไม่ซื้อมาสวมใส่อีก จึงถึงควรแก่เวลาที่ผู้บริหารของ Gap จะต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นเรื่องภาพลักษณ์และวิธีการสื่อสารใหม่หมด... Read The Rest →

« Older Entries

Back to top