Global Review: Advertising ตอน ขอหนึ่งวัน สานฝัน Batkid
By Weerachon Weeraworawit, Published: 20 December 2013
เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมืองไทยของเราเกิดปรากฎการณ์สำคัญที่ผู้คนพร้อมใจกันออกมารวมตัว ร่วมเป่านกหวีดแสดงการคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตามจุดสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ผ่านการนัดแนะทางสังคมออนไลน์
ที่อเมริกาก็เช่นกัน ในเดือนเดียวกันนี้ ผู้คนในเมืองซานฟรานซิสโกพากันหลั่งไหลออกมาเต็มท้องถนน แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไปจากบ้านเรา ขณะที่คนไทยรวมใจแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการออกกฎหมายล้างผิดคนโกง แต่ที่นั่น พวกเขารวมตัวกันออกมาเปลี่ยนเมืองซานฟรานซิสโกให้กลายเป็นกอแธมซิตี้ เมืองแห่งคนบาปและอาชญากรรมที่มีแต่ในการ์ตูนคลาสสิคเรื่อง แบทแมน จากนั้นก็รอคอยกันอยู่เต็มสองฟากถนน คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจแบทแมนที่กำลังจะออกมาปราบเหล่าร้ายผดุงคุณธรรม
และผู้สวมบท แบทแมน หรือจะเรียกให้ถูกต้องว่า แบทคิด ที่ชาวเมืองรอคอยก็คือเด็กน้อยวัย 5 ขวบ Miles Scott ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่มูลนิธิ Make-A-Wish ซึ่งทำหน้าที่เติมฝันของเด็กที่ป่วยเป็นโรคร้ายทั่วโลกมากว่า 30 ปี ได้พบคำปรารถนาของ Miles Scott ที่ฝันอยากเป็นแบทแมนสักครั้งในชีวิต ทางมูลนิธิจึงทำการรณรงค์ทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ผ่านแฮชแท็ค #SFBatKid โดยจุดเริ่มต้นต้องการเกณฑ์อาสาสมัครให้ได้ประมาณ 200 คน ให้ออกมาร่วมสวมบทพลเมืองกอแธมซิตี้ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน วันที่เด็กน้อย Miles จะสวมหน้ากากเป็นแบทคิดออกมาลุยจับผู้ร้าย แต่ทำไปทำมากระแสความเห็นอกเห็นใจของผู้คนบนสังคมออนไลน์ ที่มีต่อความฝันของเด็กน้อยผู้นี้มีมากเกินคาดหมาย ทำให้มีคนนัดแนะและลงชื่อว่าจะออกมาให้กำลังใจแบทคิดในวันนั้นมากถึง 13,000 คน กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ซึ่งทำให้ทางมูลนิธิสามารถขยายผลจนเชิญ ผู้ว่าฯ และ ผบ. ตำรวจ เมืองซานฟรานซิสโกมาร่วมแสดงได้ เลยเถิดไปจนถึงความสำเร็จในการทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาร่วมเล่นเป็นอีกหนึ่งตัวละครในวันนั้นโดยสวมบทเป็นตัวเอง ส่งข้อความผ่านวิดีโอ Vine ของ Twitter เชียร์แบทคิดให้ออกไปจับผู้ร้ายให้สำเร็จ
เมื่อวันสานฝันมาถึง ทันทีที่แบทคิดตื่นนอนตอนเช้า ก็ได้รับข้อความจาก ผบ. ตำรวจ แจ้งเหตุอาชญากรรมใหญ่ที่ต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน จากนั้นนักแสดงพี่เลี้ยงที่สวมบทเป็นแบทแมน ก็รีบมาพาแบทคิดขึ้นรถ Lamborghini (ที่มีผู้ใจบุญให้ยืมใช้และติดโลโก้แบทแมนออกวิ่งหนึ่งวัน) ขับมาปรากฎโฉมยังเส้นทางรถรางกลางเมือง ท่ามกลางฝูงชนที่ถือป้ายโบกธงคอยส่งเสียงเชียร์ แบทคิดไม่รอช้า ตรงรี่เข้าไปช่วยหญิงสาวที่ถูกผู้ร้าย The Riddler จับมัดผูกติดกับระเบิด (จำลอง) อยู่กลางรางได้ทันเวลาก่อนที่ระเบิดจะทำงาน จากนั้นแบทคิดก็ตรงเข้าไปจับตัว The Riddler ที่กำลังย่ามใจออกปล้นธนาคารใจกลางเมือง พอแบทคิดส่งตัวผู้ร้ายให้ตำรวจเสร็จสรรพ ก็พักทานข้าวนิดนึงพอมีเวลาให้ผู้ร้ายรายสุดท้ายคือ The Penguin ได้หายใจหายคอออกมาลักพาตัว Lou Seal มาสคอตสัญลักษณ์ประจำทีมเบสบอล San Francisco Giants ไปขังไว้ที่สวน AT&T Park แล้วบ่ายๆ วันนั้นท่ามกลางเสียงเชียร์ แบทคิดก็ตามไปจัดการ The Penguin ได้สำเร็จ ปล่อยมาสคอตให้เป็นอิสระ และปิดท้ายรายการที่ศาลาว่าการเมืองซานฟรานซิสโก แบทคิดได้รับการสรรเสริญถึงขั้นที่ชาวเมืองและผู้ว่าฯ ได้ร่วมกันจัดเวทีขึ้นเพื่อมอบกุญแจเมืองที่ทำจากช็อคโกแลตให้เป็นรางวัลแทนคำขอบคุณ
ไม่เพียงเท่านั้น หนังสือพิมพ์ประจำเมืองคือ San Francisco Chronicle ยังเปลี่ยนหัวหนังสือพิมพ์เป็น Gotham City Chronicle พร้อมพาดหัวตัวไม้ Batkid Saves City และรายงานข่าวแบทคิดออกมากู้เมืองจากคนร้ายประหนึ่งเป็นเหตุการณ์จริง นอกจากนั้น FBI รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายใน ยังพากันออกแถลงการณ์ฉบับพิเศษยกย่องผลงานของแบทคิดอย่างเอาจริงเอาจัง เรียกได้ว่าร่วมด้วยช่วยกันทั้งประเทศขนานแท้ ในการเปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้เป็นเวทีจำลองความฝันของหนูน้อย Miles Scott จากจุดเริ่มเล็กๆ แค่ความฝันอยากเป็นแบทแมนของเด็กน้อยคนหนึ่ง กลายเป็นเรื่องราวโดนใจให้บอกต่อกันไปบนสังคมออนไลน์ จนคนทั้งเมืองออกมาร่วมแสดงพลัง สร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ให้กับเด็กผู้ป่วยเป็นโรคร้ายทั้งประเทศ และสร้างชื่อ Make-A-Wish Foundation ให้ดังกึกก้องไปทั่วโลกได้ภายในวันเดียว
Leave a Reply