BEYOND PRINT: 1st Article: Interactive MV

(บทความชิ้นแรกของ Well Done Bangkok กับคอลัมน์ประจำ Beyond Print หรือ คิดนอกกระดาษ ตีพิมพ์ในแมกกาซีน Advertising Newspaper ซึ่งเป็น Freezine ราย 2 เดือน ผลิตโดย Visionary Group เพื่ออัพเดทความเคลื่อนไหวในแวดวงครีเอทีฟโฆษณาไทย และให้ความรู้แก่ผู้สนใจในวงการโฆษณา)

คิดนอกกระดาษ ตอน Interactive MV

By Weerachon Weeraworawit, Published: 15 November 2011

ในหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ แมกกาซีน ควรมีอะไร? เป็นคำถามที่ครีเอทีพโฆษณาทุกคนต้องเจอเวลาคิดหาไอเดียแต่ละชิ้นงาน มันเป็นกรอบเล็กๆ หรือกรอบใหญ่ๆที่เราต้องนำเสนอ ในนั้นจะมีการตอบโจทย์ มีกลยุทธ์ มีวิธีการพูด มีสินค้า มีสิ่งที่เราต้องการจะนำเสนอ หรือขายมัน แน่นอนที่เราต้องพยายามเค้นหาไอเดียที่ใหม่ สด สะดุดตาคนอ่าน แต่ถ้าเราเงยหน้าออกจากกรอบสี่เหลี่ยมของแผ่นกระดาษล่ะ? เราและคนดูงานของเราจะเจออะไรที่น่าตื่นเต้นอีกบ้าง?

ในโลกยุคดิจิตอล ผู้คนหันมาเสพอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น ซึ่งถ้ามองอินเทอร์เน็ตให้เป็นกระดาษ มันคงเป็นกระดาษยักษ์ที่ไม่มีรูปแบบ อยู่ที่ผู้ใช้จะใส่เนื้อหาอะไรเข้าไปข้างใน ไม่กี่ปีมานี้ นอกจากวงการโฆษณาแล้ว มิวสิควิดีโอก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พยายามย้ายกรอบของตนเอง จากจอทีวีมาสู่หน้าจอดิจิตอลได้อย่างน่าตื่นเต้น แถมบางมิวสิควิดีโอก็เชื่อมต่อกับงานโฆษณาได้อย่างแนบเนียนซะอีก

เดือนพฤศจิกายนปี 2007 วงอัลเทอร์เนทีฟร๊อคชื่อดัง Arcade Fire ได้เปลี่ยนวงการมิวสิควีดิโอไปตลอดกาล โดยการสร้าง Interactive MV เพลง Neon Bible ทำให้เอ็มวีกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มีการโต้ตอบกับคนดูและสร้างอารมณ์ร่วมให้กับเพลงอย่างแท้จริง ทำให้ปีต่อมาพวกเค้าได้เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ให้กับ แคมเปญของ บารัค โอบาม่า ด้วยวิชั่นของวง… เป็นไงล้ำมั๊ย?

ยังไม่พอ! เดือนสิงหาคมปี 2010 หลังจากพวกเค้าได้ออกอัลบั้มใหม่ The Suburbs พวกเค้าก็ได้ออก Interactive MV ตัวใหม่กับเพลง We Used To Wait หรือที่คนในวงการรู้จักกันดีในนามหนังอินเทอร์แอคทีฟเรื่อง The Wilderness Downtown ในรูปแบบเอ็มวีที่เรามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพียงแค่ระบุสถานที่ๆคุณอยู่ใน Google Map สังเกตุง่ายๆ ถ้าบริเวณนั้นมีภาพถ่ายจากดาวเทียม (ปุ่ม Hybrid) คุณจะสามารถเห็นบริเวณบ้านคุณกลายเป็นเรื่องราวในเอ็มวีอีกด้วย (แหม เสียดายเมืองไทยทำไม่ได้ เห้ออ)  ข้อแม้มีอยู่ข้อเดียว คือคุณต้องใช้ Google Chrome เปิดเท่านั้น  เป็นไงล่ะ นอกจากเอ็มวีจะล้ำแล้ว ยังโปรโมตความล้ำของ Google Chrome อีกด้วย… โอ้ว อันนี้สุดยอดดด

กลับมาที่นอกกระดาษแถบฝั่งเอเชีย มีงานล้ำๆที่ฝรั่งเองก็ต้องทึ่ง! กับวง Sour เพลง Mirror ที่เขย่าเวทีอวอร์ดในโลกโฆษณาทำเอาคณะกรรมการของ One Show ลงมติเอกฉันท์ให้รางวัล Best of Show ในปี 2010 ล่าสุดทีมครีเอทีฟหัวอนาคตจากแดนปลาดิบก็พากันตัดสินใจลาออกจากบริษัทเอเจนซี่ใหญ่ๆ แล้วมาตั้งเอเจนซี่ของตัวเองที่รวมเอาสุดยอดครีเอทีฟมาเจอกับสุดยอดโปรแกรมเมอร์ปล่อยงานชิ้นแรกมาก็สั่นวงการอีกครั้งกับเอ็มวีเทพของวง Androp เพลง Bright Siren ที่โปรโมตกล้อง Canon เต็มๆด้วย Concept “Light Up” นอกจากเพลงติดที่หูแล้ว ภาพกล้องยังติดตา เกิดภาพจำให้คนที่ดูอีกด้วย… เยี่ยมมาก

หลังจากปรากฏการณ์พลิกโลกเอ็มวี วงดังๆทั่วโลกต่างก็พยายามออกมาจากกรอบเดิมๆอย่างวง OK GO ก็เปลี่ยนลุคเอ็มวีจากสไตล์ “One Shot Choreograph” กลายเป็น “Interactive Choreograph” ในเอ็มวีเพลง All Is Not Lost แสดงข้อความที่เราพิมพ์ด้วยท่าทางของนักดนตรีในวง ทำให้แฟนเพลงทั่วโลกแชร์กระจายในเฟสบุ๊ค ค่ายของ Johnny Cage เองก็ไม่น้อยหน้า ให้คนทั้งโลกช่วยกันวาดภาพ Portrait ของ Cage ในชุดดำ ปลายทางคือเอ็มวี Crowded Sourcing เพลง Ain’t No Grave เพื่ออุทิศให้เค้า เช่นเดียวกับแฟนเพลงของราชาเพลงป๊อบ Michael Jackson ที่ร่วมเต้นร่วมร้องผ่านกล้องของตัวเอง ส่ง Footage มาให้ตัดต่อรวมกันกลายเป็น The Behind The Mask Project ขนาดเค้าล่วงลับไปแล้ว แต่ความทรงจำไม่เคยหายไป และอีกมากมายหลายศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น Bjork “Biophilia” ที่ออกเอ็มวีให้ตามซื้อตามดาวน์โหลดดูได้ในรูปแบบ Application อันน่าตื่นตาตื่นใจบนหน้าจอมือถือ ศิลปิน Eric Whitacre กับโปรเจ็คท์ Virtual Choir ที่ให้คนที่มีความฝันในการร้องเพลงทั่วโลกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างฝันนั้นให้เป็นจริง มี Lily Allen กับเพลง The Fear ที่ Xbox ต้องขอเอามารีเมค ในเมืองไทยก็เริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้วนะครับ เริ่มจากค่าย Loveis ที่ทดลองใช้เทคโนโลยีในการ Capture หน้าแฟนเพลงมาลงเอ็มวี และล่าสุดก็พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ นั่นไง!  กับเอ็มวี Crowded Sourcing ที่คนดูได้ร่วมร้องร่วมเต้นและร่วมเลือกตอนจบของเอ็มวี

เห็นมั้ยครับ นอกกระดาษมีอะไรน่าตื่นเต้นให้ติดตามอีกมากมาย ตามดูเรื่อยๆ บางแรงบันดาลใจก็อาจย้ายถ่ายมวลสารมาปรากฏในแผ่นกระดาษ แผ่นป้ายบิลบอร์ด หน้าจอทีวี หน้าจอมือถือ เกิดงานล้ำๆต่อเนื่องตามกันไปได้ตั้งเยอะ จะรู้ได้ไงว่าโลกของงานโฆษณาเรากำลังเดินหน้าไปทางไหน ถ้าไม่คอยติดตามดู!!!

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back to top