a day: number 196: Return of the Titanium

Global Review: Advertising ตอน การกลับมาของโคตรหนัง Titanium By Weerachon Weeraworawit, Published: 20 December 2016 ไม่น่าเชื่อ ก่อนที่รางวัล Cannes Lion จะแจกกันกระจายมากมายถึง 24 สาขา ก่อนหน้านี้แค่ยี่สิบกว่าปี เวทีคานส์จัดประกวดหนังโฆษณากันแค่อย่างเดียว ยาวนานมาตั้งแต่ คศ. 1954 นู่นเลย กระทั่งในปี 1992 ถึงค่อยเพิ่มหมวด Press & Outdoor ตามมาด้วย Cyber, Media, Direct จนถึงต้นสหัสวรรษ ก็ยังคงมีให้ตัดสินอยู่ไม่กี่หมวดแค่นั้น จนกระทั่งการมาถึงของแคมเปญโฆษณาระดับมาสเตอร์พีซ The Hire ที่เอเจนซี่โฆษณา Fallon Worldwide แห่งมินเนอาโปลิส สหรัฐอเมริกา รังสรรค์ให้กับลูกค้า BMW ในปี 2000 ยอดขายรถ BMW ในอเมริกาตกลงไปเกือบ 1,000 ล้านเหรียญ และทำท่าจะดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ ทำให้ค่ายรถหรูแห่งนี้ต้องทบทวนกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงแนวทางงานโฆษณา จึงได้ให้โจทย์นี้ไปกับทาง Fallon ให้หาวิธีโฆษณาใหม่ๆ มาช่วยผลักดันยอดขาย และทาง Fallon ก็นำเสนอแคมเปญหนัง The Hire ที่กลับหัวกลับหางการจัดสรรงบฯ โฆษณาในยุคนั้นใหม่หมด คือแทนที่จะทุ่มเงินไปกับการซื้อสื่อ Fallon กลับแนะนำให้ BMW จ่ายเงินแค่ 10% ให้กับสื่อโฆษณา แต่เทเงิน 90% ลงบนค่าถ่ายทำสุดอลังการถึง 15 ล้านเหรียญ แล้วแปะหนังลงสื่อฟรีบนเว็บไซต์ตนเอง bmwfilms.com โดย David Lubars ครีเอทีฟหัวเรือใหญ่ Fallon ในยุคนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า... Read The Rest →

Our King. Our Soul.

It’s been a very sad week for all Thais as we just lost our beloved king. Most of us feel like we are losing our father since he gave us a lot of love and care. I know it’s really hard for westerners to understand why we mourn so much. To put it straight, it’s because we all love King Bhumibol so much. But our amount of love is still very little comparing to his love and care towards us. Thailand would not be able to be such a wonderful... Read The Rest →

a day: number 194: Three Words to Kill Racism

Global Review: Advertising ตอน ขอ 3 คำ กำจัดการเหยียดผิว By Weerachon Weeraworawit, Published: 20 October 2016 ไม่น่าเชื่อ ที่ความคิดโบราณเต่าล้านปีอย่างการเหยียดสีผิวจะอยู่ยืนยงมาถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะในประเทศต้นตำรับสิทธิเสรีภาพของชนชาวโลก อย่างสหรัฐอเมริกา เราจึงเคยเห็นเหตุการณ์น่าตระหนกในปี ค.ศ. 1992 ที่คนผิวดำในลอสแอนเจลิสพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง จากผลการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมในเหตุการณ์ที่ตำรวจผิวขาว 4 นาย รุมตื้บหนุ่มผิวดำ Rodney King ด้วยข้อหาเล็กๆ คือขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จลาจลครั้งใหญ่ครั้งนั้น จะทำให้สังคมอเมริกันได้ทบทวนหวนนึก หาทางอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดังวาทะอมตะ Can we all get along? ที่ Rodney King ได้กล่าวไว้ในการเรียกร้องเพื่อนผิวดำให้ยุติเหตุวุ่นวาย ที่ทำให้มีคนตายไปหลายสิบคนในครั้งนั้น แต่มาถึงวันนี้ สันติวิธีที่เคยสมานประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวก็ดูจะคลายมนต์ขลัง เหตุเพราะคนรุ่นใหม่ที่โตขึ้นมา ต่างมีอายุเลยช่วงเหตุจลาจลเผาบ้านเผาเมืองในคดี Rodney King จึงไม่ได้ซึมซาบถึงความรุนแรงและความเสียหายของวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามมา บวกกับอคติที่มีต่อคนต่างผิวสียังคงฝังรากลึกในสังคมอเมริกัน ทำให้เราได้เห็นเหตุจลาจลโดยคนผิวดำครั้งใหญ่ ในปี ค.ศ. 2013 เมื่อศาลสั่งปล่อยตัว George Zimmerman ยามชาวละติน ที่ยิงวัยรุ่นผิวดำ Trayvon Martin เสียชีวิต ต่อเนื่องตามมาด้วยเหตุการณ์ตำรวจยิงคนผิวดำตายในหลายๆ เมือง แล้วรอดพ้นการต้องโทษจำคุก อันนำมาสู่การตอบโต้ด้วยความรุนแรงต่อตำรวจโดยอดีตทหารผ่านศึกผิวดำในเมืองดัลลัส ทำให้ผู้คนที่นั่นอยู่ด้วยความระส่ำระสายวุ่นวายมาจนถึงทุกวันนี้ และทำให้เราได้เห็นพลังของถ้อยคำ เมื่อถูกนำไปใช้ถูกที่ถูกเวลา คำง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ ก็สร้างพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ กลายเป็นตัวแทนของยุคสมัยไปในพริบตา นั่นคือคำ 3 คำที่ประกอบขึ้นเป็นข้อความว่า Black Lives Matter ซึ่งแรกเริ่มเดิมที ได้ถูกโพสต์ขึ้นประกอบคำปลอบใจคนผิวดำบนเฟสบุ๊คโดย 3 สาวนักเคลื่อนไหวทางสังคม Alicia Garza, Patrisse Cullors,... Read The Rest →

a day: number 193: A Second for Moment Marketing

Global Review: Advertising ตอน วินาทีนี้เลย Moment Marketing By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 September 2016 ขณะที่คนรุ่นใหม่กำลังคลั่งไคล้ไล่จับโปเกมอน ผ่านแอพ Pokemon Go ของบริษัท Niantic และ Nintendo จนเกิดกระแสฟีเวอร์แพร่ระบาดไปทั่วโลก นักการตลาดและนักโฆษณาต่างก็นั่งไม่ติด ต้องขยับปรับความคิด เร่งทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้เป็นการใหญ่ สมดังคำทำนายของบรรดากูรูการตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ระบุตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่สายงานสื่อสารการตลาดจะแตกยอดอ่อน เกิดแขนงใหม่ในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะได้รับความนิยมจนกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน นั่นคือเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) หรือ ความเป็นจริงแต่งเติม ดังที่ระบุไว้ในวิกิพีเดียไทย อย่างที่ทราบกันดี แอพ Pokemon Go เป็นเกมออนไลน์ที่ใช้เทคโนโลยี AR สร้างภาพตัวการ์ตูนโปเกมอนขึ้นมาให้เห็นในโลกจริงผ่านสมาร์ทโฟน ผสานกับเทคโนโลยีบอกตำแหน่ง Location Based ทำให้กำหนดจุดปรากฎกายของบรรดาโปเกมอน ให้บรรดาสาวกออกมาวิ่งไล่จับกันได้ทั่วโลก และพลอยทำให้ Moment Marketing แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ เริ่มจากที่ญี่ปุ่น McDonald’s ได้เข้าไปสปอนเซอร์แอพนี้โดยกำหนดให้ร้าน McDonald’s กว่า 3,000 สาขาทั่วประเทศ เป็น “ยิม” ที่ผู้เล่นสามารถเข้ามาต่อสู้หรือฝึกตัวโปเกมอนกันในร้าน ตามมาด้วย Zipcar บริการรถ รับ-ส่ง ที่เมืองบอสตัน ก็ให้บริการตระเวนจับโปเกมอนฟรี เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แลกกับการ Tweet ชื่อแบรนด์ในทวิตเตอร์ ซึ่งอันนี้น้อยกว่าบ้านเรานะ ถึงจะเปิดตัวทีหลัง แต่ Grab ก็ออกบริการ Grab Go ให้สาวกโปเกมอนในกรุงเทพฯ นั่งรถฟรี 3 ชั่วโมง พร้อมกับคู่แข่งอย่าง Uber ก็ทยอยออกบริการ Uber Go... Read The Rest →

a day: number 192: Olympics Ad Champions

Global Review: Advertising ตอน แชมเปี้ยนโฆษณาโอลิมปิก By Weerachon Weeraworawit, Published: 25 August 2016 โหมโรงอย่างเงียบเชียบ สำหรับโอลิมปิกฤดูร้อน ที่กรุงรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากโดนข่าวใหญ่มากมายไล่กลบพื้นที่ข่าวซะมิด อย่างผลโหวตช็อคโลก Brexit ที่ทำให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป และเหตุก่อการร้ายในประเทศต่างๆ นำไปสู่ความผันผวนในทุกด้านที่ทำให้ผู้คนต้องติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของมหกรรมกีฬาเอง ก็โดนการแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งที่ผ่านมาแย่งพื้นที่ข่าวไปจนเกลี้ยง ในแง่ของข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกเอง ก็พาลเป็นข่าวในด้านลบซะเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นข่าวความกังวลที่มีต่อมหันตภัยไวรัสซิก้า ทำเอานักกอล์ฟและนักเทนนิสชั้นนำถอนตัวกันอื้อ รวมไปถึงความไม่เชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของประเทศเจ้าภาพ ทำให้ต้องลุ้นยอดผู้เข้าร่วมชมมหกรรมกีฬาครั้งนี้กันตัวโก่ง นั่นทำให้ในปีนี้ ผู้จัดการแข่งขันน่าจะต้องขอบคุณบรรดาผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้มากๆ เพราะถ้าจะมีการพูดถึงโอลิมปิกแบบเสียงดังฟังชัด เรียกกระแสความสนใจจากคนทั่วไปอย่างได้ผล ก็ต้องยกเครดิตจำนวนมากให้กับแคมเปญโฆษณาของสปอนเซอร์ ที่เทงบฯ มาโปรโมตแบรนด์กันเป็นว่าเล่น เท่ากับช่วยโปรโมตโอลิมปิกไปด้วยในตัว เริ่มด้วย Coca-Cola โดย Ogilvy & Mather บราซิล ออกแคมเปญ #THATSGOLD ต่อยอดแคมเปญใหญ่ที่กำลังใช้อยู่ทั่วโลก Taste the Feeling ฉลองอารมณ์ที่ได้จากความสดชื่นในการดื่มโค้ก ว่ามีคุณค่าดุจเดียวกับอารมณ์ของนักกีฬาที่ชนะได้เหรียญทอง ต่อด้วยยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung ที่ออกตัวแรงแจกโทรศัพท์มือถือรุ่นพิเศษ Galaxy S7 Edge และหูฟัง Gear IconX ให้กับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมแข่งขัน ควบคู่ไปกับแคมเปญหนังสารคดีชั้นยอด A Fighting Chance ที่ได้ผู้กำกับภาพยนตร์รางวัลออสการ์ Morgan Neville มาช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของนักกีฬาในประเทศที่ด้อยโอกาส กับความฝันในการเป็นผู้ชนะกีฬาโอลิมปิก และที่ต้องจับตามองคือเจ้าพ่อเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา Nike ที่ได้เป็นสปอนเซอร์หลักสมใจเสียที หลังจากที่ปิดดีลล้มการผูกขาดโอลิมปิกจาก Adidas มาได้ ต้องคอยดูว่าทางเอเจนซี่คู่บุญ Wieden + Kennedy จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานเอาชนะสุดยอดแคมเปญ Find Your Greatness ที่ตนเองทำไว้ เมื่อคราวยังไม่ได้เป็นสปอนเซอร์หลักในปี 2012 ได้สำเร็จหรือไม่... Read The Rest →

« Older Entries Newer Entries »

Back to top